นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ กำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมโครงการประกันรายได้เกษตรกร ปี 3 ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมจัดทำโครงการในส่วนที่กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบ ประกอบด้วยโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 4 รายการ คือ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับผิดชอบประกันรายได้ยางพารา
“กรมฯ กำลังเร่งจัดเตรียมโครงการอยู่ ทั้งการกำหนดราคาประกันรายได้สินค้าเกษตรแต่ละชนิด รวมถึงมาตรการเสริมที่จะดำเนินการคู่ขนานเพื่อรักษาระดับราคาสินค้า หากทำเสร็จแล้วจะเสนอให้คณะกรรมการบริหารจัดการสินค้าเกษตรแต่ละรายการพิจารณาก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด หรือประมาณเดือน ต.ค. 2564 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตสินค้าเกษตรเริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว” นายวัฒนศักย์กล่าว
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ขณะนี้โครงการประกันรายได้เกษตรกร ปี 2 ที่ดำเนินการจบแล้ว คือ ข้าวเปลือก และยางพารา ส่วนที่ยังดำเนินการอยู่ คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง ซึ่งในช่วงที่ราคาต่ำกว่าประกันรายได้ เกษตรกรก็ได้รับการชดเชยส่วนต่าง แต่ปัจจุบันสินค้าเกษตรแต่ละชนิดมีราคาสูงขึ้นจากมาตรการเสริม และการเร่งหาตลาดของกระทรวงพาณิชย์ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดราคาข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ตันละ 8,500-8,600 บาท, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้น 14.5% กิโลกรัม (กก.) ละ 9.10 บาท, ปาล์มน้ำมัน ทะลาย กก.ละ 6.20-7.30 บาท (น้ำมันปาลมดิบ กก.ละ 34-35 บาท) และมันสำปะหลัง กก.ละ 2.50 บาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 2 ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ช่วงราคาผลผลิตต่ำกว่าราคาที่ประกันรายได้ โดยมีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 7.67 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.5 ล้านครัวเรือน ยางพารา 1.78 ล้านครัวเรือน มันสำปะหลัง 5.2 แสนครัวเรือน ปาล์มน้ำมัน 3.7 แสนครัวเรือน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.5 แสนครัวเรือน
ส่วนราคาประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิดปี 2 มีดังนี้ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ยางแผ่นดิบ กก.ละ 60 บาท น้ำยางสด กก.ละ 57 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 23 บาท มันสำปะหลัง กก.ละ 2.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 8.50 บาท และปาล์มน้ำมัน กก.ละ 4 บาท โดยหากราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาประกันรายได้ รัฐบาลก็จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง
ที่มา: https://mgronline.com/business/detail/9640000072821
จดหมายข่าวปศุสัตว์ยั่งยืน ปีที่2: ฉบับที่ 12 ประจำเดือน สิงหาคม – กันยายน 2567
ไฮไลท์หัวข้อ– การพัฒนาวัตถุดิบยั่งยืน– การเตรียมความพร้อมการพัฒนาวัตถุดิบ– ความร่วมมือกับหน่วยงานในการพัฒนาวัตถุดิบ– กิจกรรมร่วมกับหน่วยงานในเครือข่าย– ข่าวประชาสัมพันธ์ 9