พาณิชย์ เผยราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ล่าสุด 9.72 บาทต่อกิโลกรัม สูงเกินจากราคาประกันรายได้ ที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม เกษตรกรเฮ ! เดินหน้าปี 3
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะโครงการประกันรายได้เกษตรกรในพืช 5 ชนิด ประกอบด้วย ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น
ล่าสุดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้มีการประกาศเรื่อง การกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 มติไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 4 ของโครงการประกันรายได้ปีที่ 3 เพราะราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขณะนี้สูงทะลุราคาประกันรายได้
โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 และระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.-19 ก.พ. 2565 เมื่อคำนวณส่วนต่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดความชื้นไม่เกิน 14.5% สำหรับงวดที่ 4 อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 9.72 บาท สูงกว่าราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ กก.ละ 8.50 บาท หรือสูงกว่าราคาประกันรายได้ 1.22 บาท ทำให้ไม่ต้องจ่ายชดเชยเป็นงวดที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการคำนวณปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ได้ใช้วิธีการเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี คือปี 2562/63 , 2563/64 และ 2564/65 ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 700 กก. ต่อไร่ คูณด้วยจำนวนไร่ตามที่เกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่
ส่วนการกำหนดราคาอ้างอิง นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ระบุว่า ได้ใช้ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้นไม่เกิน 14.5% ของกรมการค้าภายใน เฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน
โดยถ่วงน้ำหนักราคาตามปริมาณผลผลิตรายจังหวัดที่ออกสู่ตลาดรายเดือนในเดือนที่กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง จากจังหวัดที่มีปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากที่สุด 10 อันดับแรก ตามข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา น่าน ตาก เลย นครสวรรค์ ลพบุรี เชียงราย พิษณุโลก และแพร่ เพื่อคำนวณการจ่ายส่วนต่าง
“โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 ในกรอบวงเงิน 1,863 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยจะจ่ายเดือนละครั้งทุกวันที่ 20 จนสิ้นสุดโครงการ
โดยมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดทั้งประเทศ 4.52 แสนครัวเรือน ปลูกมากที่สุด คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ รองลงมา คือ จังหวัดตาก เชียงราย และกระจายอยู่ 17 จังหวัดภาคเหนือ กับหลายจังหวัดในภาคอีสานและมีภูมิภาคอื่นด้วยเล็กน้อย
ตั้งแต่มีโครงการนี้ผ่านไปสองปีและกำลังเดินหน้าปีที่สามเกษตรกรมีความพอใจเป็นอย่างมากเพราะรัฐบาลบริหารทั้งมาตรการหลักและมาตรการเสริมยกระดับราคาสินค้าเกษตรได้หลายตัวข้าวโพดเป็นตัวหนึ่งที่ราคาดีมากเมื่อเทียบกับทุกรัฐบาลที่ผ่านมา คือราคาข้าวโพดรัฐบาลชุดนี้ดีเด่นสุด”
ที่มา: https://www.prachachat.net/economy/news-869050